Monday, August 5, 2013
หุ่นสวย ด้วยมันฝรั่ง
เพราะ ว่าเนื้อของ มันฝรั่งนั้น สามารถดูดซับเอาเครื่องปรุงต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำมันเข้าไปไว้ในเนื้อได้มากถึงร้อยละ 30-40เลยทีเดียว มันจึงเป็นที่มาของห่วงยางรอบเอว ถ้ารู้อย่างนี้แล้ว เราก็จะมาเรียนรู้เทคนิคการปรุง มันฝรั่ง ให้อร่อย ปลอดภัย และห่างไกลโรคอ้วนกันดีกว่า
อาจารย์นิพนธ์ ฉิมเฉลิม นักโภชนาการอิสระ กล่าวว่า “เรา นั้นสามารถที่จะนำ มันฝรั่ง มาทำอาหารสุขภาพได้หลายชนิดเลยทีเดียว เช่น ต้มให้สุกแล้วบด จากนั้นก็โรยเกลือและพริกไทยป่นเล็กน้อย หรือถ้าอยากให้มีกลิ่นหอมมากยิ่งขึ้น ก็ควรนำส่วนผสมที่ได้นั้นไปห่อกระดาษฟรอยด์แล้วนำเข้าอบในเตาอบ บดเนื้อ มันฝรั่ง ต้มสุกผสมในน้ำแกง เช่น เมนูหัวปลาต้มเผือก จะทำให้น้ำแกงนั้นเข้มข้นขึ้น ออกกำลังกาย หรือจะทำเป็นขนม โดยใช้แทนมันเทศหรือเผือก เช่น บัวลอยเผือก เผือกทิพย์ มันทิพย์ ก็ได้”
จริงๆแล้ว มันฝรั่งนั้น ก็เป็นอาหารสำหรับคนต้องการ ลดน้ำหนัก(และ ควบคุมระดับน้ำตาล ในเลือด) เพราะว่ามันให้แคลอรี่ต่ที่ำ มันฝรั่งต้ม 100 กรัม นั้นให้พลังงานเพียง 75-80 แคลอรี่เท่านั้นเอง นอกจากนั้น มันฝรั่ง ก็ยังอุดมไปด้วยวิตามินซี โพแทสเซียม วิตามินบี 6 และวิตามินบี 1
การเลือกซื้อมันฝรั่ง
ควรเลือกหัวที่มีสี เหลือง ไม่มีปุ่มของตารากที่กำลังงอกหรือหัวที่มีจุดสีเขียวอ่อน นั่นแปลว่า เป็น มันฝรั่ง ที่เก็บเอาไว้นาน เนื้อจะไม่ค่อยอร่อย มันฝรั่ง ที่มีจุดเขียวๆ และมีรากงอกออกมามีส่วนประกอบของสารอัลคาลอยด์ (alkaloid) ที่เรียกว่า ซาโคนีน (chaconine) และโซลานีน (solanine) ซึ่งหากมีจำนวนมากเกินไปก็อาจจะเป็นพิษร้ายแรงได้ เราจึงควรคัดหัวที่มีจุดสีเขียวทิ้งออกไป สำหรับผู้แพ้สารโซลานีน แม้จะได้รับเข้าไปเพียงเล็กน้อยก็อาจที่จะทำให้เป็นไมเกรนได้เลย
การปรุง อาหารจากมันฝรั่ง
“จำ เป็นที่จะต้อง ล้างให้สะอาดเสียก่อนที่จะนำมาต้มหรืออบ และควรที่จะปรุงทั้งเปลือกเพื่อรักษากลิ่นอันหอมของมันฝรั่งเอาไว้ และมันยังช่วยรักษาวิตามินซีในเนื้อไม่ให้ถูกทำลายไปอีกด้วย ส่วนน้ำที่ต้มมันฝรั่งนั้น ก็ อย่าทิ้ง ให้เก็บไว้ไปทำน้ำซุปก็ได้” ออกกำลังกาย
การเก็บ
“ไม่ควรที่จะนำ มันฝรั่ง นั้นไปแช่ตู้เย็น เพราะว่ามันจะกระตุ้นให้เกิดการงอกของรากอย่างได้รวดเร็ว เราควรวาง มันฝรั่ง ไว้ในห้องที่อุณหภูมิปกติและอากาศถ่ายเทได้สะดวก” การกิน มันฝรั่ง และผักชนิดอื่นๆ สลับกันไป นั้นก็เป็นตัวช่วยหนึ่งที่ทำให้หุ่นดี แต่อย่าลืมนอน พักผ่อน ออกกำลังกาย และทำงานให้สมดุล ด้วยหละ
ที่มา..shape.in.th
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment