เทคนิคการลดน้ำหนัก แบบที่ได้ผลชัวร์ๆ

เทคนิคการลดน้ำหนัก แบบที่ได้ผลชัวร์ๆ
วิธี การง่ายๆ ที่เราเน้นกันบ่อยๆ นะครับ ถ้าหาเราต้องการควบคุมน้ำหนักตัวของเราไม่ให้เปลี่ยนแปลง คุณก็ควรที่จะรับประทานอาหารที่มีปริมาณแคลอรีเท่ากับที่ร่างกายใช้ออกไปใน แต่ละวัน น้ำหนักตัวของเราจึงจะคงที่ แต่ในกรณีที่เราต้องการให้น้ำหนักตัวของเราลดลงนั้น เราจำเป็นที่จะต้องใช้พลังงานออกไปให้มากกว่าพลังงานที่เรารับเข้าไปในวัน นั้น แต่ในทางตรงข้ามนั้นถ้าหากเรารับประทานอาหารเข้าไปมากเกินความต้องการของ ร่างกาย พลังงานหรือแคลอรีส่วนที่เกินจะถูกเก็บสะสมไว้ในรูปของไขมัน อีกทั้งยังพบว่าการเผาผลาญไขมัน 0.45 กิโลกรัม (1 ปอนด์) จำเป็นที่จะต้องใช้พลังงานถึง 3,500 แคลอรีเลยทีเดียว
การลดน้ำหนักให้ได้ผล ควรประกอบไปด้วย 3 วิธีดังนี้
1. รักษาระดับของอาหารหรือแคลอรีที่รับประทานเข้าไปในแต่ละวันให้คงที่ แต่เพิ่มการใช้พลังงานมากขึ้นกว่าเดิม
2. ลดปริมาณอาหารหรือแคลอรีที่รับประทานเข้าไปในแต่ละมื้อลงมา และก็เพิ่มการใช้พลังงานให้มากขึ้นในแต่ละวัน
3. ลดจำนวนอาหารหรือแคลอรีที่เรารับประทานเข้าไปในแต่ละวันให้นอยกว่าปกติ แต่ว่ารักษาระดับของการทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายนั้นให้เท่าเดิม
ข้อที่ควรรู้ : การลดน้ำหนักที่เหมาสม ควรอยู่ระหว่าง 0.45-0.90 กิโลกรัม (1-2 ปอนด์) ต่อ 1 สัปดาห์ จะไม่มีผลต่อการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ และไม่ทำให้ร่างกายเกิดความเครียดมากเกินไป

วิธีออกกำลังกายเพื่อควบคุมและลดน้ำหนัก
ออกกำลังกายนั้นนอกจากว่าเราจะต้องคำนึงถึงรูปแบบหรือโปรแกรมที่ปลอดภัยและ มีประสิทธิภาพแล้ว เราควรที่จะกำหนดโปรแกรมที่สามารถทำได้อย่างต่อเนื่องตลอดไปด้วย ส่วนใหญ่ที่พบคือ คนที่บริหารร่างกายเพื่อการลดน้ำหนักนั้น มักที่จะเลิกออกกำลังกายไปกลางคันในเวลาอันสั้น ทำให้การออกกำลังกายไม่ได้ผลอย่าที่น่าจะเป็น เพราะฉะนั้น ใครก็ตามที่กำลังจะเริ่มต้นออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักนั้น วั้นนี้ผมมีวิธีมาแนะนำให้ปฏิบัติกันครับ

– ตั้งเป้าหมายของการออกกำลังกาย เริ่ม จากเวลาน้อยๆ ก่อนถ้าเราทำได้แล้วค่อยๆ เพิ่มเป้าหมายของเรานั้นให้ยาวขึ้นหรือหนักขึ้น เช่น เราตั้งใจที่จะเดินออกกำลังกายให้ได้ซัก 25 นาทีในช่วงเดือนแรกและลดน้ำหนักให้ได้ 2-4 กิโลกรัม หลังจากนั้นเราค่อยเข้าร่วมการออกกำลังกายแบบ
ถีบจักรยานให้ครบ 50 นาทีภายในเดือนที่ 3 และน้ำหนักของเราลดลงให้ได้ 6-12 กิโลกรัม
- เริ่มอย่งช้าๆ ทีละนิด ดู ระดับความแข็งแรงของตนเองด้วยและความสามารถของตนเองมีแค่ไหน ไม่ควรที่จะใจร้อนออกกำลังกายอย่างหักโหม เพราะมันอาจได้รับบาดเจ็บและผลที่ได้นั้นอาจที่จะไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ ทำให้เกิดความท้อแท้จนถึงกับเลิกออกกำลังกายไปเลย และถ้าเป็นคนที่มีน้ำหนักตัวมากๆ ควรเริ่มต้นด้วยการออกกำลังกายแบบที่มีแรงกระแทกต่ำ เช่น การ ปั่นจักรยาน เดิน หรือว่ายน้ำ เป็นต้น
– มีการบันทึกตารางการออกกำลังกาย บันทึกผลการออกกำลังกาย ดูความก้าวหน้า เพื่อเป้นแรงบรรดารใจ ในการออกกำลังกายอย่างมีความสุข
– ตารางเวลาในการออกกำลังกาย  เราสามารถที่จะเลือกทำกิจกรรม 2 อย่างพร้อมกันในเวลาเดียว เช่น วิ่งบนลู่วิ่งในเวลาที่ต้องดูข่าวทีวี เป็นต้น
– เลือกสถานที่ออกกำลังกาย  ที่ไม่ไกลมากนักและเดินทางสะดวก
- กิจกกรมการออกกำลังกายนั้นควรเป็นกิจกรรมที่เราชอบและจะสนุกไปกับมัน

ที่มา..shape.in.th