Monday, June 24, 2013
อ๊วน....อ้วน...! เรื่องหนักๆ ที่ควรใส่ใจ
ความอ้วน เป็นภาวะหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม หากไม่ตระหนัก อาจก่อให้เกิดผลเสียและโรคแทรกซ้อนทางด้านสุขภาพตามมา...
“ ความอ้วน ” เป็นสัญญาณอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคภัยต่าง ๆ มากมาย เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด หรือแม้กระทั่งโรคมะเร็ง เนื่องจากพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไป เช่น การรับประทานอาหารที่มีพลังงานสูง และการไม่ออกกำลังกาย ทำให้ความอ้วนกลายเป็นเรื่องใกล้ตัว หากมีน้ำหนักตัวมาก ร่างกายก็ต้องแบกรับน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะข้อเข่า ซึ่งอาจส่งผลให้กลายเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมตามมาอีกด้วย
สาเหตุและปัจจัยของความอ้วน กรรมพันธุ์
การรับประทานอาหารมากเกินความต้องการของร่างกาย
การใช้พลังงานน้อยเกินไปในแต่ละวัน
การได้รับยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด ยาจำพวกเตอรอยด์
โรคบางชนิด เช่น โรคต่อมไทรอยด์ โรคเบาหวาน
ภาวะด้านจิตใจและอารมณ์ เช่น ความเครียด
ทำอย่างไรไม่ให้อ้วน อดอาหารดีหรือไม่... ไม่ดีแน่...เพราะผู้ที่พยายามลดความอ้วนด้วย การอดอาหาร มีผลให้อัตราการเผาผลาญพลังงานในร่างกายลดน้อยลง และขาดสมดุล หากเลิกอดอาหารและกลับมารับประทานใหม่ มักพบว่าจะรับประทานได้มากกว่าเดิม ซึ่งจะทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นเหมือนเดิม หรืออาจจะมากกว่าเดิมอีกด้วย นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักแบบขึ้น ๆ ลง ๆ จะมีอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจขาดเลือดเพิ่มสูงขึ้น
ผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก...ลดได้จริงหรือ... ปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์ที่โฆษณาสรรพคุณในการลดน้ำหนัก อาทิ ชา กาแฟ อาหารเสริมต่าง ๆ ซึ่งบางชนิดจะกระตุ้นให้ร่างกายขับน้ำออกมา ทำให้น้ำหนักตัวลดลงเล็กน้อย หรืออาหารเสริมบางชนิดจะมีรำข้าวหรือกากใยอื่น ๆ เป็นส่วนผสม ที่ช่วยให้รู้สึกอิ่ม หากใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาก ๆ อาจมีผลข้างเคียงจากสารเจือปนของยาลดน้ำหนัก ซึ่งจะเป็นอันตรายแก่ร่างกายได้
ยาลดความอ้วน..ช่วยได้หรือไม่.. ยาลดความอ้วน จะมีฤทธิ์ในการกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ช่วยลดความรู้สึกหิว การใช้ยาลดความอ้วน จะทำให้น้ำหนักลดลงในช่วงที่ทานยา แต่น้ำหนักจะเท่าเดิมหรือสูงขึ้นหากหยุดยา ด้วยอาการที่เรียกว่า Yo-Yo Effect และอาจมีผลข้างเคียงต่อตับ ไต และหัวใจ จึงต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ และควบคู่กับการปฏิบัติตัวอย่างถูกต้อง โดยการออกกำลังกาย และทานอาหารอย่างเหมาะสม
การลดความอ้วนที่ถูกต้อง ต้องมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะลดความอ้วนอย่างแท้จริง
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารในปริมาณที่พอเหมาะ
ลดรับประทานอาหารจำพวกแป้ง ไขมัน และน้ำตาล
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 15-30 นาที
การใช้ยาลดน้ำหนัก ซึ่งวิธีนี้ควรเป็นทางเลือกสุดท้ายและต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์เท่านั้น
การลดความอ้วนที่รวดเร็ว และได้ผลดีโดยไม่ต้องผ่าตัด การลดความอ้วนด้วย วิธีทางการแพทย์สมัยใหม่ ที่บูรณาการร่วมกันของสหสาขาวิชาชีพ คือ แพทย์ เภสัชกร นักโภชนาการ นักกายภาพบำบัด นักส่งเสริมสุขภาพ และเครื่องช่วยสลายและเผาผลาญไขมัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยทำให้การลดน้ำหนักปลอดภัย ได้ผลดีและเร็ว ไม่กลับมาอ้วนอีก และยังทำให้สัดส่วนกระชับยิ่งขึ้น ทั้งนี้ การดูแลรักษาด้วยวิธีดังกล่าว ควรได้รับคำแนะนำและอยู่ภายใต้การดูแลจากแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
ที่มา...โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment