แนวทางการดูแลและสร้างเสริมสุขภาพผู้ป่วยเบาหวาน
อาหาร
การบริโภคอาหารที่มากเกินควรและ/หรือสัดส่วนไม่พอเหมาะจะมีผลต่อระดับน้ำตาล และการเกิดโรคแทรกซ้อน การกําหนดอาหารสําหรับผู้ป่วยเบาหวาน มีจุดมุ่งหมายที่สําคัญ คือ
-
เพื่อให้ได้พลังงาน (แคลอรี) ที่พอเหมาะแก่ร่างกายทําให้น้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่อ้วนหรือผอมเกินไป
-
เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบทุกประเภท รวมทั้งวิตามินและเกลือแร่ต่าง ๆ
-
เพื่อให้ระดับน้ำตาลในเลือดใกล้เคียงกับปกติมากที่สุด
-
เพื่อป้องกันหรือชะลอการเกิดโรคแทรกซ้อนจากเบาหวาน
การออกกำลังกาย
การรักษาโรคเบาหวานนอกจากการรักษาด้วยยาและการควบคุมอาหารแล้ว การออกกําลังกายนับ ว่ามีความสําคัญและได้ผลดีอีกวิธีหนึ่ง การออกกําลังกายที่เหมาะสมและถูกต้องอย่างสม่ำเสมอร่วมกับการควบคุมอาหารและ การใช้ยาที่เหมาะสม ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ได้ดีแต่ยังสามารถป้องกันและลดภาวะแทรกซ่อนที่จะเกิดตามมาได้ด้วย โดยเฉพาะถ้าเริ่มออกกําลังกายแต่เนิ่น ๆ ตั้งแต่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ การได้รับความรู้ความเข้าใจในการออกกําลังกายในผู้ป่วยโรคเบาหวาน จึงเป็นสิ่งจําเป็นอย่างยิ่ง เพื่อเป็นการป้องกันและลดอันตรายที่อาจเกิดจากการออกกําลังกายที่ไม่เหมาะสม ได้
ชนิดของการออกกําลังกาย
-
การออกกำลังกายแบบแอโรบิค (aerobics exercise)
เป็นการกระตุ่นให้ร่างกายเผาผลาญกลูโคสด้วยขบวนการที่ใช้ออกซิเจนเป็นหลัก
ซึ่งจะเป็นการฝากร่างกายด้วยการกระตุ้นให้ระบบหลอดเลือดหัวใจและปอด
มีการนําส่งออกซิเจนไปให้กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อรอบๆ มากขึ้น
มีการเผาผลาญไขมันมากขึ้น ตัวอย่างการออกกําลังกายแบบแอโรบิค เช่น
การเต้นแอโรบิค เดินเร็ว วิ่งเหยาะๆ ถีบจักรยานอยู่กับที่
ว่ายน้ำหรือเดินในน้ำ รํามวยจีน การบริหารร่างกายด้วยท่าต่างๆ
อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการออกกําลังกายแบบแอโรบิคนี้จะใช่กล้ามเนื้อมัดใหญ่ ๆ
ในแขนขาและลําตัว ควรออกำลังกายอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 20 นาทีขึ้นไป
-
การออกกำลังเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (strengthening exercise) และความยืดหยุ่นของร่างกาย (flexibility)
ด้วยการยืดกล้ามเนื้อ (stretching exercise) ร่วมด้วย
เพื่อให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรงเพียงพอที่จะออกกําลังกายได้นานเท่าที่ต้อง
การและไม่เกิดการบาดเจ็บได้ง่าย การยืดกล้ามเนื้อควรจะทําก่อนการออกกําลังกายแบบอบอุ่น
ร่างกาย (warm up) และเมื่อหลังจากการออกกําลังกายผ่อน (cool down)
จึงจะได้ผลดี สามารถทําได้ทุกวันแม้ว่าวันนั้นจะไม่ได้ออกกําลังกายก็ตาม
ข้อควรระวังสําหรับการเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่ต้องใช้แรงต้านหรือ
ยกน้ำหนักจะมีข้อพึงระวังในคนที่ตรวจพบว่ามีโรคหัวใจและภาวะหลอดเลือดผิด
ปกติที่จอตาเกิดขึ้นแล้ว
การออกกำลังกายแบบนี้อาจทําให้เป็นอันตรายต่อหัวใจหรือมีเลือดออกในลูกตาได้
ขณะที่เกร็งกล้ามเนื้อเพื่อต้านแรงน้ำหนักไม่ควรกลั้นลมหายใจ
เพราะจะทําให้เพิ่มความดันในช่องทรวงอก
ซึ่งมีผลต่อความดันโลหิตที่อวัยวะต่าง ๆ ใกล้เคียงกัน เช่น
ในเบ้าตาหรือสมองได้
ที่มา www.yaandyou.net
No comments:
Post a Comment